นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Privacy Policy)
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
เวอร์ชั่นกํากับ : 1.0
บังคับใช้: 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568
บทนํา 3
ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย 3
คํานิยาม 4
แหล่งที่มาของข้อมูลที่ บริษัท เก็บรวบรวม 5
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล 6
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม 8
คุกกี้ 11
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ 12
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล 12
ประเภทบุคคลที่ บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 14
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ 16
ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 17
การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง 18
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล 19
การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก 19
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 20
สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 20
โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 22
การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอํานาจกํากับดูแล 22
การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 22
การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ 23
บทนํา
คำประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องจึงขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ท่านทราบเพื่อเป็นการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักถึง ความสําคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถ เชื่อมั่นได้ว่า บริษัท มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หรือ “นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทําขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่าน ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดําเนินการโดย บริษัท รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดําเนินการแทนหรือในนามของ บริษัท โดยมี เนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ในปัจจุบัน และที่อาจมี ในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย บริษัท เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจ หรือ หน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดําเนินการโดย บริษัท รวมถึงคู่สัญญา หรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนามของ บริษัท (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท (รวมเรียกว่า “บริการ”)
บุคคลมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ตามความในวรรคแรก รวมถึง
1) ลูกจ้างบุคคลธรรมดา
2) เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
3) คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
4) กรรมการ ผู้รับมอบอํานาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ บริษัท
5) ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท
6) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซท์ https://patc-training.comรวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย บริษัท
7) บุคคลอื่นที่ บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย ที่ปรึกษาด้านแรงงานสัมพันธ์ ที่ปรึกษาด้านบัญชีการเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นต้น
ข้อ 1) ถึง 7) เรียกรวมกันว่า “ท่าน”
นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัท อาจกําหนดให้มีคําประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สําหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์ หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสําคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว และนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น
คํานิยาม
บริษัท หมายถึง บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ สหภาพ แรงงาน พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนด
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดําเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บ รวบรวม บันทึก สําเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทําลาย เป็นต้น
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดําเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือ นิติบุคคลซึ่งดําเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
แหล่งที่มาของข้อมูลที่ บริษัท เก็บรวบรวม
บริษัท เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการ ต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทําแบบสํารวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ บริษัท ณ ที่ทําการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท เป็นต้น
2) ข้อมูลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอํานาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ บริษัท ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการ เปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจําเป็นในการให้บริการของ บริษัท อาจเป็นผลให้ บริษัท ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท พิจารณากําหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและ ตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ใช้ ประกอบด้วย
ในกรณีที่ บริษัท มีความจําเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจําเป็นในการเข้าทําสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ คัดค้านการดําเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทําให้ บริษัท ไม่สามารถดําเนินการ หรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม
บริษัท อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่ท่านใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัท รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
คุกกี้
บริษัท เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ ความดูแลของ บริษัท เช่น https://patc-training.comหรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดําเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ บริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความ สะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ บริษัท และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนําไปเพื่อปรับปรุง เว็บไซต์ของ บริษัท ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่ บริษัท ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จําเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัท จะไม่ทําการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อํานาจปกครองที่มีอํานาจกระทําการแทน ผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกําหนด กรณีที่ บริษัท ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า บริษัท ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อํานาจปกครองที่มีอํานาจกระทําการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ตามแต่กรณี ดังนั้น บริษัท จะดําเนินการลบทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหาก บริษัท ไม่มีเหตุอันชอบ ด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการซึ่งขึ้นอยู่กับ ประเภทของผลิตภัณฑ์ หรือบริการ หรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่าน กับ บริษัท หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสําคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน
1) เพื่อการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การสมัคร ลงทะเบียน หรือขึ้นทะเบียนใด ๆ กับบริษัทฯ การจัดหาหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการรูปแบบต่าง ๆ การทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ การบริหารจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาและการบริหารสัญญา
2) เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ บริษัท ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อท่าน หรือตาม พันธกิจของ บริษัท
3) เพื่อการดําเนินการทางธุรกรรมของ บริษัท
4) ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการเพื่ออํานวยความสะดวก และสอดคล้องกับความต้องการของท่าน
5) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงท่าน
6) จัดทําบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกําหนด
7) วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของ บริษัท
8) เพื่อดําเนินการตามที่จําเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหา กรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ
9) ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทํา ที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้ง บริษัท และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
10) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ บริษัท หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
11) ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
12) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
13) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทําคําสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
14) เพื่อจัดทําและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจําเป็น
15) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทําที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
16) ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของ บริษัท อย่างไร ทั้งในภาพรวม และ รายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า การวิเคราะห์
17) ดําเนินการตามที่จําเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่ บริษัท มีต่อหน่วยงานที่มีอํานาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของ บริษัท
18) ดําเนินการตามที่จําเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือ ของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดําเนินการของ บริษัท
19) ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวัง โรคระบาด
20) จัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้า หรือจัดทําสถิติ ที่ บริษัท ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการ
21) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คําสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดําเนินการเกี่ยวกับ คดีความ การดําเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
ประเภทบุคคลที่ บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9 ข้างต้น บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ท่านใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัท อาจจําเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ บริษัท ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทํานโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มี ประกาศกําหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อ บริษัท มีความจําเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัท จะดําเนินการเพื่อให้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือ ดําเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กําหนดให้ บริษัท ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐาน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคล ประกาศกําหนด
3) เป็นการจําเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ บริษัท หรือเป็นการทําตามคําขอ ของท่านก่อนการเข้าทําสัญญานั้น
4) เป็นการกระทําตามสัญญาของ บริษัท กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่าน ไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
6) เป็นการจําเป็นเพื่อดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ
ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจําเป็นตาม วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กําหนดไว้ในนโยบาย ประกาศ หรือตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจําเป็นตามวัตถุประสงค์ ดังกล่าวแล้ว บริษัท จะทําการลบ ทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถ ระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทําลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมาย จะได้ประกาศกําหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความ อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัท ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้น จะได้มีคําสั่งหรือคําพิพากษาถึงที่สุด
การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
บริษัท อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ บริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทําของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น บริษัท จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และของบุคคลที่ บริษัท มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกําหนดรายละเอียดประเภทข้อมูล ส่วนบุคคลที่ บริษัท มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคําสั่งของ บริษัท เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทําการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัท จะกํากับ ให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ตํ่ากว่าข้อตกลงระหว่าง บริษัท กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจํากัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถ เข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะราย หรือบุคคลที่มีอํานาจหน้าที่ หรือได้รับมอบหมายที่มีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวต้องยึดมั่น และ ปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่ โดย บริษัท มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลประกาศกําหนด
นอกจากนี้ เมื่อ บริษัท มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการ ให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัท จะกําหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูล ส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของ บริษัท อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์ หรือ บริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ บริษัท ขอแนะนําให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบ ในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัท ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอํานาจควบคุมถึงมาตรการคุ้้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทําอันเกิดจากเว็บไซท์หรือบริการของบุคคลที่สาม
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทําหน้าที่ตรวจสอบ กํากับ และให้ คําแนะนําในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กําหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ไว้หลายประการ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสําเนาและขอให้เปิดเผยที่มา ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่ บริษัท มีสิทธิ ปฏิเสธคําขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมาย หรือคําสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น
2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
3) สิทธิในการลบ หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัท ลบ หรือทําลายข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกําหนด
4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ บริษัท ทําการตรวจสอบตามคําร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ ด้วยกฎหมาย
ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตาม วัตถุประสงค์ที่ บริษัท ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ บริษัท เก็บรักษาข้อมูล นั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ บริษัท กําลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจําเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่ บริษัท มีเหตุในการปฏิเสธคําขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัท สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุ อันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิ เรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ บริษัท)
6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย บริษัท เว้นแต่มีข้อจํากัดสิทธิโดยกฎหมายให้ บริษัท จําเป็นต้องเก็บรักษา ข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับ บริษัท ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านจาก บริษัท ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานได้ โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ บริษัท ส่ง หรือ โอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ตามที่กฎหมายกําหนด
โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิด และถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของ บริษัท (สําหรับเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สําหรับ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อ บริษัท และอาจได้รับโทษ ตามที่กําหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลําดับรอง กฎ ระเบียบ คําสั่งที่เกี่ยวข้อง
การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอํานาจกํากับดูแล
ในกรณีที่ท่านพบว่า บริษัท มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียน ไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอํานาจกํากับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดย คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัท ขอให้ท่านโปรด ติดต่อมายัง บริษัท เพื่อให้ บริษัท มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไข ข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก
การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทําการแจ้ง ให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://patc-training.comโดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกํากับอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัท ขอแนะนําให้ท่านตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่าเสมอ ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางเฉพาะ กิจกรรมที่ บริษัท ดําเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทําการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ บริษัท
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการ รับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียด ในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายัง บริษัท เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่าน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) สถานที่ติดต่อ: บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด 89 อาคารคอสโมออฟฟิต พาร์ค ชั้น 5 ยูนิต G ถนนป๊อปปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เบอร์โทรศัพท์: 099-458-5291 อีเมล: DPO@patc-center.com
การเปลี่ยนแปลงนโยบายและแนวปฏิบัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านช่องทางที่เหมาะสมของบริษัทฯ
ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568
( นายณัฏฐน์ บุณยวิชญ์กานนท์ )
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
สำหรับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
ของบริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) และสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา หรือตามสัญญาที่ท่านทำกับบริษัท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น
ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
ข้อมูลประวัติและการทำงาน เช่น ตำแหน่ง ประสบการณ์หรือประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา เป็นต้น
ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลการทำธุรกรรม ค่าตอบแทน เป็นต้น
ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมเช่น ข้อมูลบันทึกภาพ เสียง หรือวิดีโอ เป็นต้น
ข้อมูลอื่นๆเช่น บันทึกเสียงการสนทนา บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด IP Address เป็นต้น
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อ การให้ข้อมูล เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติ การเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติงานให้กับบริษัท รวมทั้งบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น จากการแนะนำของบริษัทในเครือและบริษัทร่วม ตัวแทนของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น
3. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ โดยอาศัย ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้.
การปฏิบัติตามสัญญา
การดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าทำสัญญา
การดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจ
การบริหารและจัดการสัญญา
การตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลง
การชำระค่าสินค้าหรือบริการ รวมถึงการติดตามทวงถามหนี้
การปฏิบัติตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
การเปิดเผยหรือรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานราชการ ที่มีอำนาจตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
การตรวจสอบและยืนยันตัวตนเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมหรือนิติกรรมสัญญา
การตรวจสอบคุณสมบัติ หรือความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
การวิเคราะห์ หรือประเมิน ปรับปรุง วางแผน และการคาดการณ์ ทางธุรกิจ
การบริหารจัดการคำขอ หรือข้อเรียนต่างๆ
การรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงาน เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น ดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น กรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นต้น
4.2 ผู้ให้บริการ คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทว่าจ้าง เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาของบริษัทในด้านต่างๆ เป็นต้น
4.3 บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) อย่างไรก็ตามบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น หากเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือกฎหมาย เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านต่อไป
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดให้มีมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งมาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (organizational measures) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical measures) ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัท เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
7.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หากไม่ติดขัดทางวิธีการและเทคนิค
7.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.5 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
7.6 สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
7.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
7.8 สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้สิทธิของท่านตามข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านได้ เช่น บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการใช้สิทธินั้นๆ อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทจำเป็นต้องใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ
8. ข้อมูลการติดต่อ
ท่านสามารถติดต่อบริษัทเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 7. ได้ที่ คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด สถานที่ติดต่อ: บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด 89 อาคารคอสโมออฟฟิต พาร์ค ชั้น 5 ยูนิต G ถนนป๊อปปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เบอร์โทรศัพท์: 099-458-5291 อีเมล: DPO@patc-center.com
โดยระบุหัวข้อเป็น “ขอแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ”
บริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราว โดยจะแจ้งหรือประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท
ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568
( นายณัฏฐน์ บุณยวิชญ์กานนท์ )
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
สำหรับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
ของบริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (“บริษัท“) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) และสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา หรือตามสัญญาที่ท่านทำกับบริษัท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อ การให้ข้อมูล เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติ การเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติงานให้กับบริษัท รวมทั้งบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น จากการแนะนำของบริษัทในเครือและบริษัทร่วม ตัวแทนของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น
3. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ โดยอาศัย ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้.
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงาน เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น ดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น กรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นต้น
4.2 ผู้ให้บริการ คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทว่าจ้าง เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาของบริษัทในด้านต่างๆ เป็นต้น
4.3 บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) อย่างไรก็ตามบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น หากเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือกฎหมาย เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านต่อไป
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดให้มีมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งมาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (organizational measures) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical measures) ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัท เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
7.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หากไม่ติดขัดทางวิธีการและเทคนิค
7.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.5 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
7.6 สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
7.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
7.8 สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้สิทธิของท่านตามข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านได้ เช่น บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการใช้สิทธินั้นๆ อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทจำเป็นต้องใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ
8. ข้อมูลการติดต่อ
ท่านสามารถติดต่อบริษัทเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 7. ได้ที่ คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด สถานที่ติดต่อ: บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด 89 อาคารคอสโมออฟฟิต พาร์ค ชั้น 5 ยูนิต G ถนนป๊อปปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เบอร์โทรศัพท์: 099-458-5291 อีเมล: DPO@patc-center.com
โดยระบุหัวข้อเป็น “ขอแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ”
บริษัทอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราว โดยจะแจ้งหรือประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท
ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568
( นายณัฏฐน์ บุณยวิชญ์กานนท์ )
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
ของลูกค้าของบริษัทและบุคคลผู้เกี่ยวข้อง
ของบริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด
บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (“บริษัท”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของลูกค้าบริษัท จึงจัดให้มีประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อลูกค้าบริษัทได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา (“ท่าน”) ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกฎหมายลำดับรอง แนวปฏิบัติที่เป็นทางการ การตีความของกฎหมายดังกล่าว และ/หรือ กฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
บุคคลดังกล่าวรวมถึงบุคคลธรรมดาที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ผู้ลงทุน บุคคลที่ได้ชำระเงินให้แก่หรือรับเงินจากลูกค้าของบริษัท บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สำนักงานของบริษัท ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย กรรมการหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของนิติบุคคลที่ใช้บริการของบริษัทหรือที่ได้เข้าทำสัญญากับบริษัท ลูกหนี้ของลูกค้าของบริษัท ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึงกรรมการ ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือลูกค้าของบริษัท ทั้งนี้ โปรดทราบว่าลิงก์ที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของบริษัทสามารถนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกแล้วการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นเมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์มนั้น ๆ
1. บริษัทเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้
1.1. ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง การดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบประวัติ การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ รวมถึงการตรวจสอบจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ ข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ
ข) เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)
1.2. สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัท การพิจารณาอนุมัติและการให้บริการผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การประมวลผลคำขอหรือคำขอใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ การส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการแก่ท่าน การให้คำแนะนำและการจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัท ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของบริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง
ข) ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมใด ๆ
ค) ดำเนินการตามคำสั่งของท่าน เช่น เพื่อการส่งคำสั่งของท่าน หรือการตอบข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะของท่าน หรือการดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่าน
ง) ให้บริการด้านข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
จ) ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรม สิทธิและประโยชน์ของท่าน
ฉ) จัดทำรายงานต่าง ๆ (เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของบริษัท)
ช) แจ้งเตือนการทำธุรกรรม
ซ) เรียกชำระหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัท (เช่น ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้ชำระค่าใช้จ่ายค้างชำระ)
ฌ) ดำเนินการเกี่ยวกับการดำรงบัญชีผู้ใช้และการปฏิบัติการที่เกี่ยวกับบัญชีของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การดำเนินการเกี่ยวกับคำขอใช้บริการ ดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลธุรกรรมของท่าน การออกใบยืนยัน (confirmation) ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้
ญ) ดำเนินการหรือเข้าทำธุรกรรม และ/หรือ ชำระเงิน เช่น การดำเนินการชำระเงินหรือทำธุรกรรม การดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การชำระหนี้ การเรียกเก็บเงิน การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับบริษัท ในฐานะลูกค้าของบริษัท
ฎ) บังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท
1.3. ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
บริษัทจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทหรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) บริหารกิจการของบริษัท และของบริษัทในกลุ่มธุรกิจ (เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการความเสี่ยง บริหารการเงินและการบัญชี ตรวจสอบบัญชี บริหารจัดการภายในองค์กร เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท ซึ่งอาจเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ รวมถึงการระบุตัวตนของท่านเพื่อป้องกันอาชญากรรมดังกล่าว)
ข) บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดการข้อร้องเรียน คำนวณค่าตอบแทนแก่ตัวแทนขาย)
ค) รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV ลงทะเบียน แลกบัตร และ/หรือบันทึกภาพผู้ติดต่อก่อนเข้าบริเวณสถานที่ของบริษัท)
ง) พัฒนา ทดสอบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัท และ/หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน รวมทั้งวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และ
สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
จ) บันทึกภาพ และ/หรือ เสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา สันทนาการ หรือกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และทำการประชาสัมพันธ์และสร้างสื่อทางการตลาด เช่น การจัดพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ หรือการนำขึ้นบนเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ (social media)
ฉ) กรณีลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน
ช) ดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท
ซ) จัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท ฟ้องร้องดำเนินคดีและดำเนินกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ฌ) ติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
ญ) ประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติ การเสนอข้อเรียกร้องเพื่อการเสนอราคาและการประกวด ราคาและการเข้าทำสัญญากับท่าน
ฏ) ป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ฎ) ปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศที่ใช้บังคับ หรือให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศ
ฐ) ทำวิจัย วางแผน และทำการวิเคราะห์ทางสถิติ
ฑ) จัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม สัมมนา และการเยี่ยมชมองค์กรต่าง ๆ (company visits) ซึ่งรวมถึงการให้รางวัลตามโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย
ฒ) อำนวยความสะดวกแก่การตรวจสอบทางบัญชีซึ่งกระทำโดยผู้สอบบัญชี
ณ) รับบริการจากที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือที่ปรึกษาอื่นใด ซึ่งแต่งตั้งโดยท่านหรือบริษัท
ด) ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน บริษัทอาจเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น ๆ
ต) เก็บรักษา และแก้ไขปรับปรุงรายชื่อและสมุดรายนามของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน) และจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงท่านในเอกสารดังกล่าว
ถ) ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางธุรกิจอันสมควร เช่น การจัดการ การอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุมหรือบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์และวางแผนสถิติและแนวโน้ม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน การจัดให้มีการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้และทำให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT systems) ของบริษัท เพื่อทำให้มีความปลอดภัย การพัฒนา จัดให้มี ดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT systems) ของบริษัท และ/หรือ
ท) ดำเนินการพัฒนาแบบจำลองการป้องกันการทุจริตการพัฒนาแบบจำลองการจัดจำหน่ายการพัฒนาแบบจำลองการเรียกเก็บเงินการพัฒนาแบบจำลองด้านรายได้และติดตามผลของแบบจำลองเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการอนุมัติ
1.4. ความยินยอมของท่าน
ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ก) มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม และการดำเนินการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา และ/หรือกรุ๊ปเลือดอยู่) ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้า (face recognition) และการจดจำเสียง (voice recognition) และประวัติอาชญากรรม หรือ ข้อมูลสุขภาพ และความพิการ (เช่น สมรรถภาพร่างกายและความสมบูรณ์ทางจิตใจ ในการประเมินความเหมาะสม ความเปราะบาง และคุณสมบัติของท่านในการลงทุน)
ข) เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ
ค) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) ของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ (เว้นแต่เป็นกรณีที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ หรือโดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
ง) กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) เว้นแต่เป็นกรณีที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม
จ) เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) วิจัย ทำข้อมูลสถิติ พัฒนา วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของท่าน และ (2) ติดต่อท่านเพื่อเสนอหรือจัดให้มีผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน และ/หรือ
ฉ) การดำเนินการอื่นที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมของท่าน
1.5. ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้
ก) จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
ข) ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
หากข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านมีความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทหรือเพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจจะไม่สามารถดำเนินการเพื่อให้บริการต่อไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการบางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทแก่ท่านได้ หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้
ประเภทข้อมูล | ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดส่วนบุคคล |
|
รายละเอียดการติดต่อ |
|
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน |
|
รายละเอียดการทำงาน |
|
รายละเอียดทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท |
|
ข้อมูลการวิจัยตลาด และข้อมูลการตลาด |
|
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน และรายละเอียดทางเทคนิค |
|
ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ |
|
ข้อมูลการเข้าใช้ การขอใช้บริการ และรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ |
|
รายละเอียดการใช้งาน |
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย |
|
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว |
|
ข้อมูลอื่น ๆ |
|
3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้
ก) ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย
ข) ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน ผู้แนะนำ)
ค) ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ
ง) ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากผู้ให้บริการเจ้าหน้าที่และหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมายเช่นกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์และบุคคลที่สามที่มีบทบาทในการให้บริการแก่ท่านหรือบุคคลใดๆที่ดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านั้นเองซึ่งอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านแก่บริษัทผู้จัดจำหน่ายที่เป็นบุคคลภายนอกตัวแทนที่เป็นบุคคลภายนอก
ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทในการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือในกรณีอื่นใด ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ด้วย รวมทั้งท่านจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว (หากจำเป็น) หรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
4. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด
4.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
4.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
4.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
4.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
4.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท)
4.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
4.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว ท่านสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 11 ด้านล่าง หรือช่องทางอื่นที่บริษัทกำหนดในภายหน้า
4.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ก) บริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว
ง) คู่ค้า ตัวแทน ผู้ขาย หรือองค์กรอื่น (เช่น สมาคมวิชาชีพที่บริษัทเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ คลังเก็บเอกสาร สถาบันการเงินต่างประเทศ และสำนักหักบัญชี) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
จ) บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การโอนกิจการ ข้อตกลงทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท
ฉ) ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลภายนอก ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อช่วยให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินคืนในกรณีที่มีการนำเงินเข้าบัญชีของท่านโดยผิดพลาด หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของท่านจากอาชญากรรมทางการเงิน
ช) ตัวแทนทวงถามหนี้ ทนายความ หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หน่วยงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง
ซ) บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท ได้แก่ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและ/หรือแพลตฟอร์มการให้บริการต่าง ๆ, ผู้ให้บริการคลาวด์และ/หรือผู้ให้บริการสถานที่ในการเก็บรักษาข้อมูล, ผู้ให้บริการภายนอกหรือผู้ขายที่ให้บริการทดสอบและพัฒนาระบบปฏิบัติการ, ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร, ผู้ให้บริการการสำรวจความพึงพอใจ, ผู้ให้บริการการพิมพ์, การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ตัวแทนธนาคารต่างประเทศ (correspondent banking) ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท
ฌ) ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ
ญ) ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก
ฎ) บุคคลอื่นใดที่ให้สิทธิประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน เช่น บริษัทประกันภัย และ/หรือ
ฏ) ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดและจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสม
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ก.) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัทและเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท เช่น หลังจากที่ท่านใช้บริการที่มีอยู่กับบริษัท หรือนับแต่การทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกรณีบริษัทปฏิเสธคำขอใช้บริการของท่าน หรือท่านขอยกเลิกการใช้บริการของบริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ (แต่เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปีนับจากสิ้นสุดความสัมพันธ์)
ข.) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดเช่นกฎหมายธุรกิจสถาบันการเงินกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกฎหมายการบัญชีกฎหมายภาษีอากรกฎหมายแรงงานและกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตามทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศนอกจากนี้บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานของบริษัท
8. การใช้คุกกี้
บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัท รวมถึงการใช้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัท การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น)
9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
10. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
11. วิธีการติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด สถานที่ติดต่อ: บริษัท พัทยา เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด 89 อาคารคอสโมออฟฟิต พาร์ค ชั้น 5 ยูนิต G ถนนป๊อปปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เบอร์โทรศัพท์: 099-458-5291 อีเมล: DPO@patc-center.com
12. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวโดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท
ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568